บางครั้ง ข้าวของ ที่มีในบ้าน ก็ไม่ได้จำเป็นกับเราเสมอไป บางอย่างอาจจะเป็นของที่พักจนไม่สามารถใช้งานได้แล้ว บางอย่างอาจจะเป็นของใช้ตามกระแสที่หมดความนิยม หรือบางอย่างอาจจะเป็นของเก่าเก็บที่ตอกย้ำความทรงจำในอดีตของเรา ถึงเวลาที่ของทั้งหมดนี้จะถูกนำไปทิ้งหรือบริจาคได้แล้ว
เพราะนอกจากมันจะเป็นของที่ใช้งานไม่ได้แล้ว เก็บไว้ก็รกบ้าน มันยังทำให้เราไม่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นของเหล่านั้นอีกด้วย ซึ่งวันนี้ ในบ้าน อยากชวนชาวเว็บทุกท่านไปชม 11 สิ่งของรกๆ ในบ้าน ที่ไม่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา แถมเก็บไว้ก็มีแต่จะทำให้บ้านสกปรก เปลืองพื้นที่จัดเก็บภายในบ้าน จะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยค่ะ
1. ของใช้เด็ก
นักจิตวิทยา Susan Bartell เผยว่า นอกจากของเล่นเด็กและของใช้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยแล้ว ภาพวาดหรือผลงานศิลปะของเด็กๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่ไม่มีความสุขกับการพักผ่อนในบ้านของตัวเอง เนื่องจากผลงานเหล่านี้มีปริมาณมากขึ้นทุกวัน จนล้นหลามหาที่เก็บไม่ได้ ซึ่งมันก็ทำให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านต่างรู้สึกว่าต่อให้เก็บบ้านเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดเสียที จนเกิดเป็นความเครียดและส่งผลทำให้รู้ไม่มีความสุขเมื่อได้เห็นข้าวของของเด็กอยู่ทุกซอกมุมของบ้าน
2. ของขวัญและของเก่าเก็บ
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของเก่าเก็บที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้เป็นมรดก หรือเป็นของขวัญของฝากที่เพื่อนบ้านนำมาให้ แต่มันก็อาจทำให้เราไม่มีความสุขได้ เพราะสิ่งของบางชิ้นเราก็ไม่ได้รู้สึกชอบมันเสียทีเดียว หรือบางอย่างมันก็ช่างขัดกับสไตล์ของเรามากนัก แต่มันก็ยากที่จะนำไปทิ้งเสียเหลือเกิน
3. หนังสือเล่มเก่า
หนังสือเล่มเก่าที่เรารัก บางครั้งถ้าเก็บสะสมไว้เป็นเวลานาน มันอาจจะไม่ใช่เล่มโปรดของเราอีกต่อไป ด้วยปริมาณของหนังสือเล่มใหม่ที่เราซื้อมาเพิ่ม มันจะยิ่งมีจำนวนมากขึ้น และยากที่จะหาที่เก็บ ซึ่งมันจะทำให้บ้านดูรกขึ้นมา จนเราเริ่มรู้สึกไม่มีความสุขที่จะอยู่กับมัน ทางที่ดีเล่มไหนอ่านแล้วและไม่ใช่เล่มโปรด ก็นำไปบริจาคเข้าหอสมุดสาธารณะกันได้นะคะ
4. ของเล่นวัยเด็ก
แม้ว่าของเล่นวัยเด็ก จะเปรียบดั่งเครื่องเตือนความทรงจำและเป็นตัวบ่งบอกว่าตัวเราเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน แต่บางอย่างมันก็เก่าเกินกว่าที่จะเก็บไว้ได้ และมันก็ไม่ใช่ของที่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป คงถึงเวลาที่เราจะต้องเลือกทิ้งของบางชิ้น และหาสิ่งของในปัจจุบันมาทดแทนกันแล้วล่ะค่ะ
5. ของสะสม
ของสะสมบางชิ้นอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับบางความทรงจำหรือกับบางคนที่เราเคยมีช่วงเวลาดีๆ ด้วย แต่ในตอนนี้เราไม่ได้รู้สึกอินกับมันแล้ว หรือบางชิ้นที่ยังมีอยู่ยังคงตอกย้ำเรื่องไม่ดีในอดีตของเรา ก็ลองหาที่ไปบริจาคหรือนำไปทิ้งเสียดีกว่าค่ะ เราจะได้ไม่ต้องรู้สึกยึดติดกับอะไรเดิมๆ และพร้อมที่จะเปิดใจยอมรับกับอะไรใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต
6. กิจกรรมยามว่างที่ไม่ได้ทำแล้ว
ช่วงที่เรากำลังมีไฟเป็นนักสร้างสรรค์ผลงานหรือคราฟต์เวิร์คอย่างสนุกสนาน เราก็มักจะซื้อของใช้และอุปกรณ์ต่างๆ มาตุนเอาไว้มากมาย แต่เมื่อถึงตอนที่เรารู้สึกเบื่อกับมัน ข้าวของพวกนี้ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้อีกเลย จนมันกลายเป็นของเก่าเก็บที่กินพื้นที่ภายในบ้านไป ในไม่ช้ามันก็จะไร้ที่เก็บ รกบ้าน ซึ่งอาจจะทำให้เราอารมณ์เสียและไม่มีความสุขได้นะคะ
7. สีกรมท่า
สีกรมท่าเป็นสีที่สวย ดูสบายตาเหมาะแก่การตกแต่งบ้านเป็นอย่างยิ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีกรมท่าเป็นสีเข้มที่ทำให้บ้านของเราดูอึมครึมมืดทึบ ที่สำคัญคือมันเป็นสีที่ดักฝุ่นได้เป็นอย่างดี และมันอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัว ไม่ปลอดโปร่งเท่าสีโทนสีสว่าง อย่างไรก็ตาม หากใครที่ชื่นชอบสีนี้เป็นชีวิตจิตใจ ก็ให้เลือกตกแต่งไว้ในห้องที่มีแสงส่องผ่านได้อย่างทั่วถึง และหมั่นดูแลทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อป้องกันการจับตัวของฝุ่นนะคะ
8. การเลือกใช้สีแบบผิดๆ
สี เป็นหนึ่งสิ่งที่ส่งผลต่อความรู้สึกต่อผู้อยู่อาศัย เรารู้ว่าโทนสีไหนเป็นสีที่สบายตา สีไหนเป็นสีทึบ หรือสีไหนเป็นสีโทนร้อน ถึงแม้ว่าบางสีกำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนหมู่มาก แต่ก็อย่าลืมใช้ความรู้สึกของตัวเองเป็นหลัก ทางที่ดีเลือกสีที่ชอบ สีที่ทำให้รู้สึกสงบผ่อนคลายและมีความสุขไปกับมันนะคะ
9. ของที่แตกหักใช้งานไม่ได้
ของใช้ที่พังหรือแตกจนเลยเวลาซ่อมแซมมาแล้ว เราก็ควรเก็บทิ้งดีกว่าค่ะ เพราะถ้ายังเก็บไว้มันอาจจะเป็นอันตรายต่อเด็กหรือคนอื่นๆ ในบ้านได้ แถมบางความเชื่อยังบอกไว้ว่าการเก็บของที่แตกหรือพังเอาไว้ในบ้าน จะนำพาเรื่องไม่ดีมาให้เราด้วยนะคะ
10. เอกสารเล่มเก่า
เอกสารที่ได้มาจากที่ทำงานเก่า หรือชีทที่ใช้ในตอนเรียน หากมันไม่มีประโยชน์กับเราแล้วก็นำไปทิ้งดีกว่าค่ะ เก็บไว้มันก็จะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดให้กับเรา เหมือนกับถูกรายล้อมด้วยกองเอกสารอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ในบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ผ่อนคลายความตึงเครียดจากการนั่งทำงานในออฟฟิศตลอดสัปดาห์
11. ลวดลายจากแก้วน้ำ
แก้วน้ำส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับลวดลายตลกๆ หรือมุกขำๆ ที่ได้รับความนิยมในแต่ละช่วงเวลา แต่เพื่อนๆ ก็คงจะรู้ว่ามุกใหม่ๆ มักจะหมุนเวียนมาเป็นลวดลายอยู่บนแก้วใบเก๋ที่วางขายตามร้านค้าหรือร้านของฝากต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งแก้วใบเก่าที่มีมุกตลกเก่าๆ ก็คงจะตกเทรนด์ไป และบางคนอาจจะไม่ชอบใจกับมุกตลกฝืด จนถึงขั้นรำคาญไปเลยก็ได้ ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ใช้มันแล้วจริงๆ ก็ทิ้งมันไปเถอะค่ะ
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น