ปัญหาหนึ่งที่หนักอกหนักใจบรรดาพ่อบ้าน แม่บ้าน คือการทำความสะอาดตู้เย็นให้เหมือนใหม่ เพราะส่วนใหญ่ต้องใช้เวลาเป็นวัน สูญเสียพลังงานในการจัดเก็บ คัดแยกอาหาร พร้อมทำความสะอาดเชื้อราให้สิ้นซาก แต่ต่อไปนี้การทำความสะอาดตู้เย็นจะกลายเป็นเรื่องง่าย ที่สามารถทำได้รวดเร็วภายใน 10 นาที เพียงแค่รู้จักวิธี 8 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
1. เริ่มต้นวิธีล้างตู้เย็น ด้วยการจัดสรรของกินแบบไม่ต้องเสียดาย
เป็นที่รู้กันดีว่า โรคเสียดายของมักเกิดขึ้นกับทุกบ้าน เรียกว่าซื้ออะไรมา มักจับยัดเข้าไปในตู้เย็น ในที่สุดก็เน่าคาตู้เย็น ส่งผลให้ที่ยังไม่เน่าเสีย ดันเจ้ากรรมกินไม่ได้ไปด้วย เหตุนี้เองก่อนที่จะไปลงมือทำความสะอาดล้างตู้เย็นแบบวิธีง่าย ๆ แนะนำให้แบ่งประเภทของกินที่กินได้กับไม่ได้เสียของ
2. ทิ้งของกินเน่าเสียให้สิ้นซาก
เมื่อแบ่งประเภทของกินที่อยู่ในสภาพสามารถนำมาปรุงเป็นอาหาร กับเอามากินไม่ได้แล้ว หรืออยู่ในสภาพเน่าเสีย แนะนำให้หาถุงขยะใบโต จัดการทิ้งให้สิ้นซาก โดยไม่ต้องหวังว่าจะสามารถกินได้ในวันข้างหน้า เพื่อให้การล้างตู้เย็นนั้นสมบูรณ์แบบอย่างที่ตั้งใจไว้
3. เพื่อความปลอดภัย ดึงปลั๊กไฟตู้เย็นออก
ก่อนที่จะทำความสะอาดตู้เย็นแบบเต็มขั้น หลังจากเคลียร์ของกินในตู้เย็นออกหมดแล้ว เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ถอดปลั๊กตู้เย็นออกเสียก่อน เพื่อป้องกันไฟดูด พร้อมทำให้น้ำแข็งในช่องแช่แข็งของตู้เย็นละลายได้เร็วกว่าเดิม หลังจากกดปุ่มละลายน้ำแข็ง
4. ใช้ฟองน้ำสะอาด เช็ดทำความสะอาดในตู้เย็น
นำถาดรองน้ำในตู้เย็นไปเทออก แล้วใช้ฟองน้ำหนานุ่ม เช็ดส่วนที่เลอะ หรือเศษอาหารตกหล่นในตู้เย็น ก่อนที่จะถอดชั้นวางของในตู้เย็น ไปทำความสะอาดด้านนอก ส่วนบริเวณที่เป็นเชื้อราตามยางขอบประตูตู้เย็นด้านใน สามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยเบกกิ้งโซดา
โดยนำเบกกิ้งโซดาไปละลายกับน้ำเปล่า แล้วนำผ้าสะอาดชุบส่วนผสมดังกล่าว มาเช็ดถูเชื้อราที่เกาะติด เพียงแค่นี้ก็สามารถขจัดเชื้อราในตู้เย็นไปได้ และเพื่อป้องกันไม่ให้คราบเชื้อรากลับมา ให้นำสำลีชุบน้ำส้มสายชูทาบริเวณดังกล่าว แค่นี้ก็โบกมือลาเชื้อราได้อย่างถาวร
5. ทำความสะอาดประตูตู้เย็น ด้วยฟองน้ำเบา ๆ
เมื่อถอดชั้นวางของในตู้เย็น เพื่อเตรียมทำความสะอาดด้านนอกแล้ว อันดับต่อไปยังคงใช้ฟองน้ำหนานุ่ม ชุบน้ำหรือน้ำยาล้างจานเช็ดทำความสะอาดประตูตู้เย็น ให้กลับมาขาวสะอาดดังเดิม แต่สำหรับบ้านหลังไหนที่มีตู้เย็นสีขาว ครีม แน่นอนว่าเมื่อนานวันไปจะปรากฎคราบเหลือง ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยฟองน้ำชุบน้ำยาธรรมดา
ดังนั้น ทางที่ดีอาจใช้ตัวช่วยอย่างน้ำส้มสายชูมาเช็ดคราบเหลืองที่ฝังแน่น โดยนำน้ำส้มสายชูทาที่ประตูตู้เย็น จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดทำความสะอาด ตามด้วยผ้าสะอาดเช็ดอีกที เพียงแค่นี้ก็ได้ประตูตู้เย็นใหม่เอี่ยมอ่อง
6. นำชั้นวางของในตู้เย็น ออกมาทำความสะอาด
นำชั้นวางของในตู้เย็น ที่ถอดออกมาไว้ด้านนอก ที่ถูกแช่น้ำยาล้างจานระหว่างที่เช็ดถูทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ ภายในตู้เย็น มาเช็ดถูทำความสะอาดด้วยฟองน้ำ หรือบางคนอาจจะนำไปล้างน้ำ พร้อมใช้น้ำยาเช็ดกระจกฉีดเพื่อทำความสะอาด ก็จะทำให้การทำความสะอาดตู้เย็นนั้นรวดเร็ว และง่ายขึ้น
7. นำอาหารที่ยังเก็บรักษา กินได้ ใส่ภาชนะถนอมอาหารให้เรียบร้อย
หลังจากทำความสะอาดตู้เย็น ทั้งส่วนด้านในและด้านนอกเรียบร้อย สะอาดหมดจดแล้ว อันดับต่อไปเป็นการสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับตู้เย็น เพื่อจะได้ไม่ต้องมานั่งกุมขมับเผชิญกับตู้เย็นรก สกปรก เสียเวลานั่งทำความสะอาดครึ่งค่อนวัน ด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงนำภาชนะถนอมอาหาร มาจัดแจงเก็บอาหารที่ยังอยู่ในสภาพที่กินได้ และเพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ แนะนำให้ใช้ถุงซิปล็อกมาช่วยเก็บอาหาร หรือผักต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องแช่ตู้เย็น
8. เพิ่มความหอมให้ตู้เย็น หลังจากทำความสะอาดด้วยเมล็ดกาแฟ
เมื่อตู้เย็นอยู่ในสภาพที่ทำความสะอาดเรียบร้อย พร้อมจัดระเบียบการเก็บอาหารให้อย่างดีแล้ว อันดับต่อไปเพื่อเป็นการทำความตู้เย็นแบบสมบูรณ์แบบ จึงต้องคำนึงถึงเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นด้วย โดยให้นำเมล็ดกาแฟมาใส่ภาชนะ แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็น เพียงเท่านี้ตู้เย็นก็สะอาด หอม น่าใช้ไปตลอดกาล
สำหรับใครที่เพิ่งซื้อบ้านหรือซื้อคอนโด แต่เจ้ากรรมตู้เย็นในบ้านกำลังกลายเป็นที่เพาะพันธุ์เชื้อโรคและขยะ อันยากต่อการทำความสะอาด สามารถนำ 8 ขั้นตอนการทำความสะอาดตู้เย็นดังกล่าวข้างต้น ไปช่วยเนรมิตให้ตู้เย็นกลับมาสะอาด เป็นระเบียบดังเดิมได้ ประหนึ่งเหมือนซื้อตู้เย็นใหม่เข้าบ้าน
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น