เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่เต็มไปด้วยสภาพอากาศที่เปียกชื้น ฟ้าครึ้ม และไร้แสงแดด หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “กลิ่นเหม็นอับในเสื้อผ้า” เป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ที่กวนใจในทุกฤดูฝน เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจหากต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว
ยังเสี่ยงกับโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อราในเสื้อผ้า เช่น โรคกลาก เกลื้อน ผื่นแดง และอาการคัน เป็นต้น แอลจี ซึ่งมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ตามสโลแกน “Life’s Good” ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลความสะอาดของเสื้อผ้าในช่วงหน้าฝน เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง จึงรวบรวมเคล็ดลับเพื่อขจัดปัญหากลิ่นอับชื้นที่เกิดขึ้นในหน้าฝนให้หมดไปที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนการทำความสะอาดเสื้อผ้ามาฝากทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำทุก 1-2 เดือน หรือซักผ้าไปแล้วประมาณ 20-30 ครั้ง ซึ่งการล้างถังซักเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการล้างถังซักช่วยทำให้การซักผ้าสะอาดล้ำลึกมากขึ้น โดยสามารถเลือกใช้วิธีธรรมชาติหรือผงล้างเครื่องซักผ้าสำเร็จรูปได้ตามความสะดวก หนึ่งในวิธีธรรมชาติที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ด้วยของใช้ที่มีอยู่ในครัวเรือนคือการใช้น้ำส้มสายชู เพียงเติมน้ำส้มสายชูเข้าไปในเครื่อง จากนั้นเลือกโปรแกรมล้างถังซัก วิธีนี้จะช่วยกำจัดเชื้อโรคที่อยู่ตามซอกเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็นซึ่งเป็นตัวการสำคัญของการเกิดกลิ่นอับ นอกจากนี้ ควรเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่มีประสิทธิภาพในการขจัดแบคทีเรียหรือสารตกค้างหลังการซัก โดยเครื่องซักผ้าแอลจี AI DDTM ที่โดดเด่นด้านการทำความสะอาดผ้าอย่างล้ำลึกและอ่อนโยน มาพร้อมถังซักและตัวตักผ้า (Lifter) ที่ทำจากวัสดุสแตนเลสที่ช่วยรักษาความสะอาดของถังซักได้ดียิ่งขึ้น พร้อมช่วยลดการสะสมแบคทีเรียในถังซักได้ถึง 99 เปอร์เซ็นต์ [1]
หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกมากเกินไป เนื่องจากผงซักฟอกมีสารประกอบฟอสเฟตอยู่ ซึ่งเมื่อสะสมและตกค้างอยู่ในถังซัก จะกลายเป็นแร่ธาตุที่ส่งเสริมการเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียต่างๆ จึงควรใช้ผงซักฟอกตามปริมาณที่แนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อหลีกเลี่ยงผงซักฟอกตกค้างภายในถังซัก และเสื้อผ้า อันเป็นที่มาของกลิ่นอับชื้นบนเสื้อผ้า นอกจากนี้ อีกตัวช่วยคือการใช้ผงซักฟอกนาโนเทคโนโลยีและมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้ผ้าสะท้อนน้ำมากขึ้น การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มนอกจากจะช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมและแก้ไขปัญหากลิ่นอับได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังมีคุณสมบัติในการช่วยทำให้ผ้าสามารถสะท้อนน้ำได้มากขึ้น ลดการดูดซับความชื้นซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย สำหรับผู้ที่ไม่ชอบใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับเสื้อผ้า โดยใส่ในน้ำสุดท้ายของขั้นตอนการซักเพื่อขจัดกลิ่นอับชื้นแทนได้
ใช้เครื่องอบผ้าในช่วงที่ฝนตกบ่อย หลังจากการซักทำความสะอาดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว อีกขั้นตอนสำคัญที่ช่วยขจัดปัญหากลิ่นอับคือ การตากผ้าให้แห้งสนิทก่อนนำมาสวมใส่ เพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและการเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย ในฤดูฝนเช่นนี้ เครื่องอบผ้าเป็นตัวช่วยที่ตอบโจทย์และเพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี เครื่องอบผ้าแอลจี DUAL Inverter Heat Pump™ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี DUAL Inverter Heat Pump เพิ่มประสิทธิภาพในการอบผ้าให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
[1] ทดสอบโดยสถาบันอินเตอร์เทค เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2556 วัดการสะสมของแบคทีเรีย P.aeruginosa บนวัสดุสแตนเลส เปรียบเทียบกับจำนวนแบคทีเรีย 12 วันก่อนการทดสอบ
และใช้เวลาน้อยลงกว่าเคยพร้อมโปรแกรม Allergy Care ที่สามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ในผ้า เช่น ไรฝุ่น และแบคทีเรียบางชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น