ใกล้ช่วงวันสงกรานต์แบบนี้หลายบ้านถือโอกาสใช้ช่วงเวลาวันหยุดยาวทำความสะอาดบ้าน เช็ดล้าง ปัดฝุ่นหิ้งพระ หรือพระเครื่องที่เก็บบูชาไว้เป็นจำนวนมาก แต่สำหรับมือใหม่ ขอแนะนำวิธีทำความสะอาดพระ ที่บางครั้งอาจพลาดทำให้พระที่มีคุณค่า ราคาสูงด้อยราคาลงไปได้
สำหรับข้อจดจำที่สำคัญมากๆ อย่างหนึ่งคือ พระเครื่องไม่ใช่ฟัน อย่าเอาแปรงสีฟันไปแปรง พระเครื่องไม่ใช่ภาชนะหุงต้ม จึงไม่ควรเอาผงขัดหม้อ หรือสก๊อตไบท์ไปขัด แต่วิธีที่แนะนำในการทำความสะอาดพระมีดังนี้
1.สรงน้ำ สมมุติว่าได้พระสมเด็จมา 1 องค์ ขั้นตอนแรกให้ใช้แอลกอฮอล์ชโลมเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน แล้วจึงสรงด้วยน้ำอุ่น โดยใช้สำลีชุบน้ำอุ่น ลูบไล้ตามซอกต่าง ๆ ให้ทั่ว แล้วนำไปผึ่งลม (ห้ามนำพระลงแช่น้ำอุ่นทั้งองค์โดยเด็ดขาด) เมื่อแห้งสนิทแล้ว สีพระอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ไม่ต้องตกใจที่เป็นอย่างนี้เพราะเหงื่อไคล หรือ ขี้มือ ฝุ่นละออง หลุดออกไป การแก้ไขความซีดของพระไม่ยาก ให้ใช้สำลีชุบน้ำหอมสีอ่อน ๆ ทาให้ทั่วองค์ เนื้อพระจะกลับมาเหมือนเดิม
2.การกำจัดฝุ่นละออง ให้ใช้คอตตอนบัดลูบเบา ๆ หมั่นปัดในซอกลึก ๆ ฝุ่นละอองจะหมดไป วิธีนี้เหมาะสำหรับพระที่จะเก็บเข้ากล่องนาน ๆ
3. การกำจัดเชื้อรา พระเครื่องที่เก็บไว้นาน ๆ ในฤดูฝนอากาศชื้นมากกว่าปกติ อาจมีเชื้อราจับเป็นฝ้าบาง ๆ ตามซอกต่าง ๆ ถ้ามีให้ใช้ขนมปังปอนด์ เอาเฉพาะส่วนที่นุ่ม ๆ ตรงกลางเบา ๆ บนเนื้อพระ ราและผงฝุ่นจะหลุดออกมาหมดพร้อมขนมปัง แต่ถ้าต้องการความสะอาดหมดจด ให้เอาพระซุกไว้บริเวณกลางเนื้อขนมปัง แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ ห่อขนมปังไว้อีกที ระวังอย่าให้ผ้าแห้ง ขนมปังจะแข็ง ทิ้งไว้ 1-2 คืน เมื่อนำพระออกมา ใช้แปรงอ่อน ๆ หรือคอตตอนบัดปัดเศษขนมปังออกให้หมด จากนั้นผึ่งลมให้แห้งสนิท เนื้อพระจะเกลี้ยงเกลา ดูผิวนวลตาขึ้นเป็นอันมาก วิธีนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพระสมเด็จ ชนิดมีแป้งโรยพิมพ์
4.กำจัดความชื้น มีวิธีดังนี้ 1.ใช้ข้าวสารกลบไว้ในภาชนะขนาดย่อมสัก 2-3 คืน เมื่อเอาออกมาใช้แปรงขนอ่อนปัดข้าวสารออก เนื้อพระจะแห้งปราศจากน้ำมัน ผิวพระจะนวล นุ่มตากว่าเก่า เหมาะสำหรับทำความสะอาดพระเนื้อนุ่ม 2.สรงด้วยน้ำซาวข้าวที่มีตะกอนข้น ๆ แช่พระไว้ 1-2 ชม. แล้วนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผึ่งลมให้แห้งสนิท เหมาะสำหรับพระเนื้อแกร่ง
5.ล้างสนิม ในกรณีมีสนิมเหล็กจับที่เนื้อพระให้ใช้เปลือกหมากเจียนเป็นชิ้นเล็ก ๆ จุ่มน้ำยาล้างสนิม ถูค่อย ๆ หลาย ๆ ครั้ง สนิมจะค่อย ๆ หลุดออก ข้อควรระวังคืออย่าถูแรง ๆ จะทำให้ผิวพระเสียได้
6.ล้างสี ในกรณีที่เนื้อพระเปื้อนสี ถ้าเป็นสีน้ำมันให้ล้างออกด้วยทินเนอร์ ถ้าเป็นสีชนิดอื่นให้ใช้น้ำยาคลอรีน หรือน้ำยาซัลเฟอร์ไดออกไซด์ล้างสีออกแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง ผึ่งให้แห้ง
7.การแช่ด้วยผงชูรส ใช้กับพระเนื้อโลหะ เหรียญ หรือรูปหล่อ แช่ไว้ราวครึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้นตามปริมาณคราบสกปรก เช็ดออกด้วยสำลี หรือล้างน้ำสะอาด การทำความสะอาดด้วยวิธีนี้อาจทำให้พระเปลี่ยนสีได้ ถ้าทิ้งไว้นาน ๆ ผิวจะกลับมาดั่งเดิม หรือถ้าใจร้อนอาจใช้ขี้ผึ้งเบอร์ 28 ทาบาง ๆ ก็ได้ เป็นวิธีที่ไม่ควรทำ แต่ถ้าให้ดีควรรักษาผิวเดิมของพระไว้ดีกว่า ถ้าอยากทำความสะอาดจริง ๆ สามารถล้างด้วยแชมพูอ่อน ๆ ผสมน้ำอุ่นก็พอแล้ว
8.ไม่ควรขัดพระด้วยน้ำยาขัดโลหะ น้ำยาสำหรับขัดโลหะ สามารถขัดพระประเภทเนื้อสำริดหรือทองผสม ทำให้สะอาดหมดจดจริง ๆ แต่โลหะจะสึกมากกว่า การแช่ด้วยด้วยผงชูรส
การขัดพระ ล้างพระ ควรทำด้วยความระมัดระวัง การใช้กรดอย่างอ่อน เช่น มะนาว มะขาม ในพระเนื้อผงจะทำให้พระดูซีดขาวขึ้น ทำให้ขาดเสน่ห์
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น