วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2562

9 เคล็ดลับจัดระเบียบบ้านแบบญี่ปุ่น บอกลาบ้านรกแบบถาวรไปได้เลย !!


    เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเบื่อกับการจัดเก็บบ้าน เพราะบ้านรกและไม่มีระเบียบอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นมาดูเคล็ดลับการจัดระเบียบบ้านแบบญี่ปุ่น ที่สามารถเปลี่ยนบ้านรก ๆ ของคุณ ให้เป็นระเบียบ เข้าที่เข้าทาง และน่าอยู่ไปตลอดกาลกัน

   งานบ้านคงเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหลายคน หากไม่อยากทำบ่อย ๆ มาจัดบ้านให้สะอาดในครั้งเดียวกันเถอะ ด้วยเทคนิคการจัดบ้านแบบญี่ปุ่นที่จะช่วยบอกลาบ้านรกแบบถาวร ด้วยเคล็ดลับการจัดบ้านให้น่าอยู่ของ  มาริเอะ คนโดะ (Marie Kondo) ผู้เขียนหนังสือ The Life-Changing Magic of Tidying Up รับสร้างบ้าน (ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว) และได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี 2558 จากนิตยสารไทม์ (TIME) ด้วย ว่าแล้วก็ตามเราไปดูการจัดบ้านในแบบฉบับมาริเอะ คนโดะ กันเลยค่ะ 



1. จัดให้เสร็จในครั้งเดียว

          มาริเอะ แนะนำว่า เราทุกคนควรเก็บบ้านให้เสร็จภายในรวดเดียว แบบมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน อย่าค่อย ๆ เก็บไปเรื่อย ๆ ทีละนิด ทีละหน่อย จนกินเวลานาน เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องคอยเก็บกวาดไปตลอดไม่สิ้นสุด อีกทั้งถ้าหากเราใช้เวลานานมาก ๆ ในการเก็บ เมื่อถึงเวลาที่เราจัดเก็บอีกฝั่งหนึ่ง ฝั่งที่เก็บไปก่อนหน้านี้อาจจะกลับมารกไปแล้วก็ได้ แถมที่สำคัญการเก็บบ้านให้เสร็จในรวดเดียวยังทำให้เราได้บ้านที่เป็นระเบียบและเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว จนเราอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากทำให้บ้านรกอีกเลยก็ได้

2. ทิ้งก่อน จัดทีหลัง

          สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ห้ามมองข้ามคือ การเลือกทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนทำการจัดเก็บ เพราะหากเราไม่เลือกกำจัดข้าวของออกไป บ้านเราก็จะไม่มีพื้นที่มากพอในการทำให้เป็นระเบียบ ส่งผลให้เราจัดบ้านกี่ครั้ง ก็ยังคงรกอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง  

3. อย่าเก็บตามห้อง ให้เก็บตามประเภท

          ปกติแล้วคนเรามักจะเก็บบ้านไปทีละห้อง แต่มาริเอะกลับไม่แนะนำอย่างนั้น โดยเธอบอกว่าเราควรจัดเก็บบ้านด้วยการแยกของออกเป็นประเภท เนื่องจากข้าวของแต่ละอย่าง เช่น เสื้อ หนังสือ หรือของฝาก อาจจะไม่ได้เก็บรวมกันอยู่แค่ในห้องห้องเดียว ทำให้การเก็บบ้านตามประเภท เป็นวิธีที่เราจะรวบรวมข้าวของแบบเดียวกันทั้งหมดในบ้านมาไว้ด้วยกันได้ ทำให้เราเคลียร์สิ่งของต่าง ๆ ออกไปได้ง่ายและสะดวกขึ้น แถมยังทำให้เราได้รับรู้อีกว่า จริง ๆ แล้ว เรามีของต่าง ๆ เหล่านี้เยอะแค่ไหน    

4. เก็บแต่ของที่ใช้
          อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญสุด ๆ ของมาริเอะคือ การเลือกเก็บแต่ของที่ใช้ โดยขั้นตอนก็คือ ให้เรานำสิ่งของประเภทเดียวกันมากองรวมกันไว้ทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้เราเห็นว่าเรามีข้าวของประเภทต่าง ๆ อยู่มากแค่ไหน จนทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเสียดายมาก จากนั้นก็ลองแบ่งข้าวของประเภทต่าง ๆ ออกเป็นหมวดย่อย ๆ แล้วหยิบขึ้นมาพิจารณาทีละชิ้น โดยให้คิดดูว่าของชิ้นนี้มันยังใช้อยู่หรือไม่ โดนใจ ถูกใจอยู่หรือเปล่า ทำให้เรามีความสุขที่ได้เห็นมันไหม จะเก็บเอาไว้ทำอะไร เคยใช้งานมันบ้างไหม จะได้ใช้งานมันอีกเท่าไร ซึ่งถ้าอันไหนไม่ใช่ให้ตัดสินใจทิ้งไปได้เลย เลือกเก็บไว้แต่อันที่ใช่ก็พอ

          สำหรับการเลือกเสื้อผ้า ให้เลือกเก็บไว้แต่เสื้อผ้าที่เราจะใช้ใส่จริง ๆ ตัวไหนไม่ชอบ ไม่ใส่ ก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะถือได้ว่าเป็นของเราที่ไม่ต้องการแล้ว ส่วนหนังสือก็ให้เลือกเก็บแต่เล่มที่เราชอบ เล่มไหนไม่ได้อ่านก็ให้นำไปบริจาค กระดาษ-เอกสารก็ให้เก็บแต่แผ่นที่สำคัญ ชิ้นไหนไม่แน่ใจก็ถ่ายหรือสแกนเอาไว้ ของทั่วไปก็อย่าไปเสียดายเช่นเดียวกัน พอเสร็จแล้วก็ให้มาจัดการกับสิ่งของประเภทที่ยากที่สุด นั่นก็คือของที่มีคุณค่าทางจิตใจ โดยของประเภทนี้ต้องใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างมาก อีกทั้งยังทำใจทิ้งได้ลำบาก แต่มาริเอะก็บอกว่า ให้เราทำการขอบคุณคนที่ให้ พร้อมขอบคุณสิ่งของชิ้นนั้น ๆ เพื่อให้เราสามารถทิ้งไปได้อย่างไม่ติดใจอะไร รวมถึงให้คิดว่าข้าวของทุกชิ้นต่างก็ต้องการการใช้งาน ฉะนั้นนำไปบริจาคให้คนที่ต้องการใช้ถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด
5. วันหลังไม่มีจริง

          เลิกอ้างกับตัวเองว่าเราจะใส่เสื้อตัวนี้ทีหลัง อ่านหนังสือเล่มนี้ทีหลัง หรือเก็บข้าวของชิ้นนี้ไว้ใช้ทีหลัง เพราะวันหลังนั้นไม่มีจริง อีกทั้งถ้าหากของชิ้นนั้นจำเป็นมาก ๆ เราคงได้ใช้งานมันไปนานแล้ว ส่วนถ้าวันไหนที่เราเกิดต้องการใช้งานขึ้นจริง ๆ ก็ยังสามารถไปหาซื้อของเหล่านั้นมาใหม่ได้ แบบไฉไลกว่าเดิมด้วย ไม่ต้องทนเก็บเอาไว้ให้เปลืองพื้นที่
6. ไม่ซื้อที่เก็บของเพิ่ม

          แม้ว่าจะต้องสร้างบ้านให้กับสิ่งของต่าง ๆ แต่มาริเอะบอกว่าไม่ควรไปสรรหาซื้อที่เก็บของมาเพิ่มให้รกบ้านอีก เพราะจริง ๆ แล้วกล่องรองเท้า และกล่องเปล่าต่าง ๆ หรืออุปกรณ์เหลือ ๆ ในบ้านก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้ โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มและไม่ต้องเก็บกล่องเปล่า ๆ ไว้ให้เปลืองพื้นที่เลยล่ะ
7. เสื้อผ้าต้องพับ

          มาริเอะ เผยว่า เสื้อผ้านั้นให้พับอย่าแขวน แต่ถ้าหากเป็นเดรส เชิ้ต สูท หรือเสื้อผ้าที่จำเป็นต้องแขวนก็สามารถแขวนได้ ส่วนพวกเสื้อผ้าอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นก็ให้พับ โดยวิธีการพับของเธอคือการพับแบบซูชิ แล้ววางเรียงกันให้สามารถมองเห็นทุก ๆ ชิ้นได้ เนื่องจากการพับและเรียงแบบนี้จะทำให้สามารถเลือกใส่เสื้อผ้าได้สะดวก แถมถ้าหากเราพับทับ ๆ กันแบบที่เคย จะทำให้เรามองไม่เห็นเสื้อผ้าเหล่านั้น จนไม่ได้หยิบมาใส่ และถูกลืมไปในที่สุด
8. เอาของออกจากกระเป๋าทุกวัน

          หลังจากเก็บบ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ทุก ๆ วันที่กลับบ้านให้เราเคลียร์ข้าวของออกจากกระเป๋า เพื่อให้กระเป๋าได้พัก และได้สำรวจของต่าง ๆ ในกระเป๋าว่าอยู่ครบหรือไม่ มีอะไรสำคัญหรือเปล่า มีข้าวของอะไรที่จะทำให้กระเป๋ารกไหม แล้วจะทำให้เราจัดการเคลียร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
9. อย่าซื้อมาเก็บ ให้ซื้อแล้วใช้

          เพื่อป้องกันไม่ให้บ้านกลับมารกอีกครั้ง มาริเอะ แนะนำว่า ให้เลือกซื้อแต่ของที่จะใช้งาน อย่าซื้อของมาเก็บ ซื้ออะไรมาแล้วให้เปิดใช้ได้ทันที ที่สำคัญอย่าเห็นแก่ของลดราคา ของถูก หรือของที่ซื้อเพราะแค่อยากได้เท่านั้น
ที่มา:kapook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น